การทำลายการทำงานแบบแยกส่วนกันแบบไซโลระหว่างการวางแผนการเงินและแผนปฎิบัติการเป็นสิ่งจำเป็นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรธุรกิจ  

 งานวิจัยของการ์ทเนอร์ชี้ให้เห็นว่าองค์กรที่ลงทุนพัฒนากระบวนการวางแผนและวิเคราะห์ที่เชื่อมโยงแผนการเงินและการปฎิบัติการแบบบูรณาการ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จะสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว (Agility) ยืดหยุ่น และแข็งแกร่ง (Agility) เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อองค์กร และลดความเสี่ยงที่มีในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ได้ดีกว่าองค์กรอื่นๆ  

 สอดคล้องกับบทวิจัยของแมคคินซี่ ‘A Better Way to Drive Your Business,’ ที่พบว่าองค์กรที่มีการวางแผนแบบบูรณาการ Extended Planning & Analytics เปรียบเทียบกับองค์กรที่ไม่มี Extended Planning & Analytics (xP&A) จะมีการร่วมมือร่วมใจกันวางแผนงาน และลดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทางธุรกิจได้ดีกว่า และมีกำไรสุทธิก่อนภาษีและดอกเบี้ย (EBIT) สูงกว่า 1-2% ยิ่งไปกว่านั้น ระดับการให้บริการสูงขึ้น 5-20% และเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนในอัตรา 10-20%  

 กล่าวโดยสรุปประโยชน์ของ Extended Planning & Analytics ในองค์รวม คือความสามารถเชื่อมโยงและบูรณาการของหน่วยงานทั่วทั้งองค์กร ในเรื่องทรัพยากร ทุน อัตรากำลังคนหรือการผลิต และผลลัพธ์ขององค์กร โดยทุกภาคส่วนในองค์กรสามารถวางแผนธุรกิจ กำหนดตัวชี้วัด และเป้าหมายเชิง  กลยุทธ์ ได้แบบเชื่อมโยงสอดคล้องกัน  

 เมื่อระบบ xP&A ทำงานได้เป็นอย่างดี จะให้ประโยชน์ที่แท้จริงต่อองค์กร 3 ประการ: ความรับผิดขอบ (Accountability), ความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน (Alignment) และวิสัยทัศน์ (Visibility) ของคนในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านต่างๆ ดังนี้